.jpg)
มีสุดสัปดาห์หนึ่ง เพื่อนๆ ที่คุ้นเคยของภรรยาผมเดินทางมาเยี่ยมตามคำเชิญเป็นครั้งแรก หลังจากที่พยายามชวนหลายครั้ง แต่พวกเธอไม่ค่อยมีเวลาว่าง เธอทั้งหลายต่างทำงานระดับสูงในบริษัทเอกชน รัฐวิสาหกิจ อาจารย์มหาวิทยาลัย นักการธนาคาร ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องภาษี รวมทั้งนักกฎหมาย เธอคนหนึ่งซึ่งดูเหมือนจะได้รับการยอมรับโดยธรรมชาติว่าเป็นหัวหน้ากลุ่ม เธอเป็นเนติบัณฑิต และได้รับราชการจนถึงระดับสูง ซึ่งใครๆ เรียกเธอว่าท่าน หรือท่านรอง
เธอผู้มาเป็นแขกไม่ได้แสดงความอึดอัด หรือรู้สึกไม่สะดวกสบายเลยแม้แต่น้อย เมื่อต้องพักรวมกันในบ้าน Cottage 1 บ้างก็นอนบนเตียง บ้างก็นอนกับพื้นตรงประตูทางเข้า หรือหน้าห้องน้ำ ผมดูพวกเธอสนุกสดชื่น และสนุกสนานตลอดระยะเวลา 2 คืน 3 วัน ที่พวกเธอพัก
หลังจากพวกเธอกลับกรุงเทพฯ ตอนบ่ายๆ ของวันอาทิตย์ ภรรยาผมมาบอกผมว่า พวกเพื่อนๆ ให้เงินไว้จำนวนหนึ่ง ไว้สำหรับเป็นค่าดูแลทำความสะอาดที่พัก ทีแรกผมตกใจเพราะคาดไม่ถึง และไม่ได้อยู่ในความคิดเลย แต่เมื่อมาครุ่นคิดสักพักพร้อมกับคำบอกเล่าของภรรยา ผมก็รู้สึกดีขึ้น และเข้าใจ
ความจริงนั้น ทุกคนล้วนเป็นเพื่อนที่ภรรยาผมรู้จักกันมาตั้งแต่เรียนอนุบาล ครั้งเมื่อถึงวัยทำงาน ก็ไปมาหาสู่กันอย่างสนิทสนม เพราะฉะนั้นสิ่งที่พวกเธอให้ไว้ มันคงจะต้องเป็นความจริงใจระหว่างเพื่อน
พวกเธอบอกว่า ชอบที่แห่งนี้มาก และรู้สึกว่ามันคือ “รีสอร์ท” จริงๆ หลายคนยังแนะนำว่า ถ้าเปิดให้คนทั่วไปมาพัก คงจะเป็นรีสอร์ทที่น่าพัก และเหมาะกับการพักผ่อนมากๆ เลย พวกเธอยังบอกด้วยน้ำเสียงที่จริงจังอีกว่า “ของทุกอย่างต้องมีต้นทุน ไม่ว่าจะเป็นอะไร” เมื่อเรามาพัก เราก็สมควรต้องจ่ายเงิน เธอจะไม่รับไม่ได้ และทุกครั้งที่เรามาเธอจะต้องคิดเงินเรา และเธอยังคงย้ำด้วยเสียงเข้มต่อว่า “ของทุกอย่างมีต้นทุน”
เย็นวันนั้นเอง ผมไปนั่งเล่นที่ระเบียง Cottage 1 มองไปทางดงกล้วยตรงลำห้วยท้ายไร่ และเนินดินรกๆ รอบบริเวณนั้น แล้วนึกย้อนถึงคำพูดของเพื่อนๆ ภรรยาผม
และนั่นเอง ทำให้ผมตัดสินใจที่จะสร้างบ้านเพิ่มอีก 2 หลัง ซึ่งต่อมาเราเรียกมันว่า Cottage 2 และ Cottage 3 ส่วนด้านหลัง Cottage 2 ผมทำสะพานไม้ และระเบียงไม้ไว้นั่งเล่นเหนือลำห้วย และเราเรียกมันว่า The Jungle Deck
นายหวาเดินแน่วตรงมาหาผมแล้วรายงาน “เถ้าแก่ เถ้าแก่ คุณป้าให้เงินผม” เขาคงหมายถึงเพื่อนของภรรยาผมที่เพิ่งกลับไปตอนบ่าย
“เหรอ....แล้วรับไว้หรือเปล่า” ผมพูดเสียงเรียบเหมือนไม่ได้สนใจ
“รับสิ เถ้าแก่...ตั้งหลายร้อย...คุณป้าบอกให้ไปแบ่งกับพวกผู้หญิง” เขาน่าจะหมายถึง นาน่า, ทอง, แอน, และจาล่า คนงานที่มาช่วยเสริ์ฟอาหาร ล้างจาน และทำความสะอาด
นายหวาโพล่งขึ้นในความเงียบ “เถ้าแก่ เถ้าแก่ เราเปิดเป็นรีสอร์ทให้คนมาพักดีกว่า มีคนมาพัก เถ้าแก่ได้เงิน ผมได้ช่วยเถ้าแก่ แขกเขาก็ให้เงินผม”
เจ้าหมอนี่มันแสนรู้จริงๆ