ผมมีไก่ ๓ ตัว ที่เราเลี้ยงไว้ ซึ่งภรรยาผมเรียกมันว่า ดอนฮวน, สโนไวท์ และแม่แพรว เดิมที พวกมันชอบเดินหากินบริเวณใต้ทางเดินสะพานไม้ ผมสังเกต คงเป็นเพราะบริเวณนี้ มีต้นไม้ร่มเงามากมาย ทั้ง เงาะ ลิ้นจี่ สะตอ แต่ที่เป็นกิจวัตรประจำคือ เจ้าดอนฮวน มักจะกระพือปีกโผขึ้นเกาะคอนต้นลิ้นจี่เป็นประจำของมันทุกเย็น เวลาประมาณ ๖โมง ถึง ๖ โมงครึ่ง ถ้ามันไม่ไปติดใจไก่ตัวเมียที่ไหน ก็จะได้เห็น ได้ยินมันขันก่อนนอนที่คอนต้นลิ้นจี่นี้
บริเวณที่เจ้าดอนฮวนใช้นอนอยู่เป็นประจำนั้น ผมจะทำระเบียงอีก ๓ ระเบียงต่อกัน ปัจจุบันก็คือ Deck 1, 2 และ 3 ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายมาจากทางเดินสะพานไม้ แต่กว่าจะได้ทำ ก็เว้นระยะเวลานานพอสมควร หลังจากทำ Panoramic Deck และทางเดินสะพานไม้เสร็จ
“นอกจากไก่ ๓ ตัว ที่มีชื่อเหมือนอะไรสักอย่าง ตรงปลายทางเดินสะพานไม้มักมีไก่ป่า (จริงๆ) ๒ ถึง ๓ ตัว ชอบมาเดินคุ้ยเขี่ยหาหนอน สักพัก มันก็จะเดินไปขึ้นคอนต้นลำไยที่อยู่ด้านทิศตะวันออกของไร่”
ถึงแม้ Deck 1, 2 และ 3 ยังไม่ได้เริ่มทำ ณ ตอนนั้น แต่ผมนั่งลงตรงจุดนั้นเสมือนว่ามีระเบียงอยู่จริง ผมนั่งชื่นชมกับผลงานทางเดินสะพานไม้ที่เกือบจะเสร็จสมบูรณ์อยู่นานจนเริ่มมืด ผมจำได้แม่น วันนั้นเป็นวันพระ ขึ้น ๑๕ ค่ำ พระจันทร์ดวงโตฉายแสงเปล่งปลั่งสวยงาม สามารถบอกได้ว่า สว่างเหมือนมีใครเปิดไฟดวงใหญ่บนท้องฟ้าด้านตะวันออก ที่น่าแปลกใจ คือ สามารถมองเห็นหิ่งห้อยบินอยู่ไกลออกไปทางด้านป่าสัก และบางส่วนน้อยๆตามต้นมะม่วง และลิ้นจี่
นายหวาเดินเข้ามานั่งด้วย แล้วคุยว่า ถ้าเข้าไปในป่าหลังบ้านลึกๆ จะมีหิ่งห้อยมากกว่านี้หลายเท่า หิ่งห้อยที่เห็นในป่าจะตัวโตมองเห็น “ขนาดหัวแม่โป้ง”
ผมไม่เคยเดินป่าตอนกลางคืน